อินฟลูเอนเซอร์ อาชีพมาแรง รายได้งาม แต่ไม่ใช่ทุกคนจะปัง

ในยุคดิจิทัลที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิต การเป็นอินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน หลายคนอาจมองว่าอาชีพนี้น่าจะมีรายได้มหาศาล เพียงแค่โพสต์รูปภาพหรือวิดีโอลงโซเชียลมีเดียก็มีรายได้เข้ากระเป๋า แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังความแวววาวนั้น ยังมีอีกหลายแง่มุมที่หลายคนอาจมองข้าม


กลไกเบื้องหลังรายได้

รายได้ของอินฟลูเอนเซอร์นั้นมาจากหลายแหล่ง ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ใช้ กลยุทธ์ และความนิยม

1. รายได้จากการจ้างงาน แบรนด์ต่างๆ มักจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการ โดยจ่ายค่าจ้างเป็นรายโพสต์ รายคลิป หรือจ่ายเป็นค่าคอมมิชชันจากยอดขาย

2. รายได้จากโฆษณา อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างรายได้จากโฆษณาที่แสดงบนแพลตฟอร์มที่ใช้งาน เช่น YouTube หรือ Facebook

3. รายได้จากธุรกิจส่วนตัว อินฟลูเอนเซอร์หลายคนใช้ชื่อเสียงของตัวเองสร้างแบรนด์สินค้าหรือบริการของตัวเอง

4. รายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ แบรนด์ต่างๆ อาจเลือกอินฟลูเอนเซอร์เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า


ปัจจัยที่ส่งผลต่อรายได้

จำนวนผู้ติดตาม อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมาก ย่อมมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า

การมีส่วนร่วม อินฟลูเอนเซอร์ที่มี engagement สูง ย่อมมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า

แพลตฟอร์ม แต่ละแพลตฟอร์มมีกลไกการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน

ประเภทของคอนเทนต์ คอนเทนต์บางประเภทสร้างรายได้มากกว่า

กลยุทธ์ อินฟลูเอนเซอร์ที่วางกลยุทธ์ได้ดี ย่อมมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า


ความท้าทายของอาชีพ

การแข่งขันสูง มีผู้คนมากมายที่อยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์

การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

กระแสและเทรนด์ อินฟลูเอนเซอร์ต้องติดตามกระแสและเทรนด์อยู่เสมอ

ภาพลักษณ์ อินฟลูเอนเซอร์ต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดี


ไปรู้จักกับ 5 อินฟลูเอนเซอร์และยูทูบเบอร์ชื่อดังของไทย พร้อมเจาะลึกถึงรายได้ต่อปี และวิเคราะห์เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้น

1. Kaykai Salaider: เจ้าของช่องยูทูบ Kaykai Salaider กับยอดผู้ติดตามกว่า 16.3 ล้านคน คอนเทนต์ของเธอมุ่งเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และการท่องเที่ยว Kaykai เป็นที่รู้จักในเรื่องสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ คาแรคเตอร์ร่าเริง และรีวิวสินค้าที่ตรงไปตรงมา รายได้ต่อปีของเธอคาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 30-50 ล้านบาท


2. Bie The Ska: ศิลปินและยูทูบเบอร์ชื่อดัง เจ้าของช่อง Bie The Ska Official กับยอดผู้ติดตาม 14 ล้านคน คอนเทนต์ของ Bie มีความหลากหลายทั้งเพลง วาไรตี้ และไลฟ์สไตล์ เขามีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น ด้วยความเป็นกันเอง อารมณ์ขัน และความสามารถรอบด้าน Bie กวาดรายได้ต่อปีไปประมาณ 20-30 ล้านบาท


3. My Mate Nate: ยูทูบเบอร์สายตลก เจ้าของช่อง My Mate Nate กับยอดผู้ติดตาม 12.9 ล้านคน คอนเทนต์ของ Nate เน้นไปที่การแกล้งเพื่อน ท้าทาย และไลฟ์สไตล์ เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความตลก บ้าบอ และไม่คิดมาก Nate สามารถสร้างรายได้ต่อปีได้ประมาณ 15-20 ล้านบาท


4. Zbing z.: เกมเมอร์สาวมากความสามารถ เจ้าของช่อง zbing z. กับยอดผู้ติดตาม 17.1 ล้านคน คอนเทนต์ของเธอมุ่งเน้นไปที่การเล่นเกม รีวิวเกม และ Let's Play Zbing z. เป็นที่รู้จักในเรื่องความเก่ง เล่นเกมเก่ง พูดเก่ง และอารมณ์ขัน รายได้ต่อปีของเธอคาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 10-15 ล้านบาท


5. Peach Eat Laek: ยูทูบเบอร์สายกิน เจ้าของช่อง PEACH EAT LAEK กับยอดผู้ติดตาม 8.41 ล้านคน คอนเทนต์ของพีชเน้นไปที่การรีวิวอาหาร คาเฟ่ และร้านอาหารต่างๆ เธอมีสไตล์การรีวิวที่เป็นเอกลักษณ์ ตรงไปตรงมา บวกกับความน่ารัก ร่าเริง ทำให้พีชกลายเป็นขวัญใจสายกิน รายได้ต่อปีของเธอคาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 10-15 ล้านบาท



2024-02-20 14:28:08
By Sabuycontent ขายบทความ 6บาท/1บทความ


บทความดีๆจากเรา:

ตัวอย่างบทความ 6บาท / 1บทความ ―


Copyright © 2023 Sabuycontent.com All rights reserved.